วิธีแก้ปวดฟัน: สาเหตุ อาการ และการดูแลเบื้องต้นก่อนพบทันตแพทย์

วิธีแก้ปวดฟัน

เคยเป็นไหมปวดจี๊ดๆตอนเคี้ยวอาหาร รู้สึกเสียวฟันขณะดื่มน้ำเย็น หรือปวดตุบๆ ในเวลากลางคืน อาการ “ปวดฟัน” เหล่านี้ เป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากเจอ หลายคนอาจมักตั้งคำถามว่า… ทำยังไงให้หายปวดไวๆ ปวดตุบๆ แบบนี้คือปัญหาอะไรกันแน่ หรือแม้กระทั่ง คำถามที่พบบ่อย ปวดฟันแค่นี้ ไม่ไปพบทันตแพทย์ได้ไหม วันนี้เราจะพาทุกคนมาทำความเข้าใจพร้อมกัน…

A title

Image Box text

A title

Image Box text

A title

Image Box text

สาเหตุของอาการปวดฟัน

ก่อนอื่นเลยให้เราสังเกตอาการของตัวเองก่อนว่า เราปวดฟันบริเวณไหน แล้วมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นกับฟันของเราหรือเปล่า ให้เราสังเกตง่ายๆ ดังนี้

1. ปวดจี๊ดๆ บริเวณฟัน

อาการปวดเมื่อรับประทานอาหาร เช่น ของหวาน ของร้อน ของเย็น หรือของเปรี้ยว สาเหตุอาจจะเกิดจาก “ฟันผุ” ภัยเงียบที่เป็นสาเหตุหลักของปัญหาในช่องปาก หรือ เกิดจาก “ฟันร้าว ฟันแตก” ได้เช่นกัน

2. ปวดฟันตุบๆ รุนแรง ปวดต่อเนื่อง หรือปวดมากในเวลากลางคืน

อาการเหล่านี้มักเกิดจาก “ฟันผุ” ที่ลุกลามจนอักเสบและติดเชื้อในเนื้อเยื่อโพรงประสาทฟัน ซึ่งเป็นบริเวณที่มีเส้นประสาทและหลอดเลือดรวมอยู่ ความปวดมักรุนแรง โดยเฉพาะในเวลากลางคืน เพราะการไหลเวียนเลือดที่ศรีษะเพิ่มขึ้นเมื่อเรานอนราบ และไม่มีสิ่งใดมาดึงความสนใจจากความเจ็บปวดนั้นเอง

3. ปวดหน่วงๆ คันรอบฟัน และเหงือกมีหนอง

มักบ่งบอกถึงการสะสมของคราบพลัคจำนวนมาก เป็นสัญญาณของโรคเหงือกอักเสบและโรคปริทันต์ หากปล่อยไว้ไม่ทำการรักษาผลกระทบที่ตามมาจะร้ายแรงขึ้นเรื่อยๆ เพราะการอักเสบจะทำลายกระดูกที่รองรับฟัน ทำให้ฟันของเราโยก และในที่สุดอาจนำไปสู่การ สูญเสียฟัน ได้เลย

4. ปวดบริเวณฟันกรามซี่สุดท้าย

อาการปวดหรือบวมบริเวณเหงือกหรือขากรรไกร ขณะเคี้ยวอาหารหรืออ้าปาก โดยเฉพาะบริเวณฟันกรามซี่สุดท้าย อาจเป็นสัญญาณของ “ฟันคุด” ซึ่งเป็นฟันกรามที่ไม่สามารถงอกขึ้นมาได้ตามปกติ อาจถูกฝังอยู่ใต้เหงือกหรือกระดูกขากรรไกร หรือดันเบียดกับฟันซี่ข้างเคียง จนทำให้รู้สึกปวดร้าวไปยังบริเวณรอบข้างร่วมด้วย


ข้อมูลเพิ่มเติม : HOW TO! ตรวจสุขภาพฟันด้วยตัวเอง แบบง่ายๆ (คลิก)

หากพบว่าเริ่มมีอาการเหงือกอักเสบ
แนะนำให้มาปรึกษาทันตแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย

เพิ่มเพื่อน

7 วิธีแก้ปวดฟันเบื้องต้น ก่อนพบทันตแพทย์

อาการปวดฟัน เป็นปัญหาที่สร้างความรำคาญและส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการกิน การพูด หรือการนอนพักผ่อน เพื่อช่วยบรรเทาอาการในเบื้องต้นระหว่างรอพบทันตแพทย์ เราได้รวบรวมวิธีง่ายๆ ที่สามารถช่วยให้อาการดีขึ้นและลดความทรมานลงได้

ยาแก้ปวดกลุ่มที่ไม่มีสเตียรอยด์และหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป เช่น พาราเซตามอล (Paracetamol) หรือ ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดได้

ผสมเกลือป่น 1 ช้อนชาในน้ำอุ่น 1 แก้ว (ประมาณ 240 มิลลิลิตร) คนให้เข้ากันแล้วนำมาบ้วนปากกลั้วคอประมาณ 30 วินาทีถึง 1 นาที จากนั้นบ้วนทิ้ง ทำซ้ำ 2-3 ครั้ง น้ำเกลือจะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียและลดการอักเสบในช่องปากได้

ใช้ไหมขัดฟันที่บริเวญที่มีอาการปวดเบาๆ เพื่อนำเศษอาหารที่ติดอยู่ออก

ใช้น้ำแข็งห่อด้วยผ้าขนหนูด้วประคบไปยังแก้มด้านที่มีอาการปวด 10-15 นาที เพื่อช่วยลดอาการบวมและชาบริเวณที่ปวดได้ชั่วคราว

ในสมัยก่อน มนุษย์ใช้สมุนไพรที่มีอยู่รอบๆ ตัว ช่วยในการบรรเทาอาการโรคต่างๆ เช่น
1. กานพลูบด – เป็นผงใช้อุดในรูฟันที่มีอาการปวด เนื่องจากในกานพลูมีน้ำมันหอมระเหยที่มีสารยูจีนอน มีฤทธิ์คล้ายยาชา ช่วยลดอาการปวดได้
2. กระเทียมสด – สับให้ละเอียดอุดรูฟันที่ผุเป็นรู ลดอาการปวดจากฟันผุ หรือโขรกผสมกับเกลือ 1 ช้อนชา แล้วพอกบริเวณเหงือกที่ปวด ช่วยลดอาการของโรครำมะนาด หรือ โรคเหงือกอักเสบได้
3. ข่า – โขลกรวมกับเกลือ ใช้นิ้วสีไปรอบๆฟันให้ทั่ว ทิ้งไว้5 นาที แล้วค่อยแปรงฟัน ช่วยบรรเทาอาการปวดจากเหงือกอักเสบ

เพื่อน้ำเศษอาหารตามซอกฟัน ที่เป็นต้นเหตุของแบคทีเรียในช่องปากออก

สิ่งเหล่านี้อาจกระตุ้นให้ฟันที่ปวดรู้สึกเจ็บมากขึ้น

3 ข้อที่ห้ามทำเด็ดขาดเมื่อปวดฟัน

A title

Image Box text

A title

Image Box text

A title

Image Box text

1. ห้ามใช้ของแหลมแคะฟัน

เพราะจะยิ่งทำให้อักเสบมากขึ้น

A title

Image Box text

A title

Image Box text

A title

Image Box text

2. ห้ามเอายาแก้ปวดวางตรงจุดที่ปวดฟัน

ยาแก้ปวด ที่มีส่วนผสมของ แอสไพริน หรือ ไอบูโพรเฟน มีฤทธิ์เป็นกรดอ่อน อาจทำให้เกิดการระคายเคือง แสบร้อนได้ และยาชนิดนี้ จะแตกตัวและถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดผ่านระบบทางเดินอาหารเท่านั้น

A title

Image Box text

A title

Image Box text

A title

Image Box text

3. ห้ามปล่อยให้อาการเรื้อรังนานเกิน 3 วัน 

การพบทันตแพทย์เพื่อตรวจตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด จะช่วยรักษาปัญหาของโรคได้อย่างทันท่วงที

A title

Image Box text

A title

Image Box text

วิธีรักษาอาการปวดฟันอย่างตรงจุด โดยทันตแพทย์


1. ฟันผุเล็กน้อย

รักษาด้วย การอุดฟัน

2. ฟันผุลึกถึงโพรงประสาทฟัน 

รักษาด้วย รักษารากฟัน หรือ ถอนฟัน

รักษาด้วย รักษารากฟัน หรือ ถอนฟัน

3. ฟันคุด

รักษาด้วย ผ่าตัดถอนฟันคุด

รักษาด้วย ผ่าตัดถอนฟันคุด

4. เหงือกอักเสบ หรือโรคปริทันต์

รักษาด้วย การขูดหินปูนและเกลารากฟัน

รักษาด้วย การขูดหินปูนและเกลารากฟัน

5. ฟันแตก หรือ ฟันร้าว 

รักษาด้วย การอุดฟัน หรือ ครอบฟัน

6. มีช่องว่างฟัน 

รักษาด้วย การทำรากฟันเทียม ฟันปลอม หรือสะพานฟัน

*พบทันตแพทย์ เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากและฟัน อย่างน้อยทุกๆ 6 เดือน


ข้อมูลเพิ่มเติม : เหงือกอักเสบ เหงือกบวม แก้ยังไงดี? (คลิก)

หากพบว่าสุขภาพฟันเริ่มมีปัญหา

ปรึกษา-จองคิว

สรุป

เมื่อเรารู้สึกปวดฟัน สิ่งสำคัญที่สุดคือควรรีบไปพบทันตแพทย์ทันที การบรรเทาอาการด้วยตัวเองเป็นเพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น ไม่ใช่วิธีรักษาที่ยั่งยืน การปล่อยไว้อาจนำไปสู่การติดเชื้อที่รุนแรงขึ้น หรือสูญเสียฟันซี่นั้นได้ในที่สุด


References

  • การเสริมสร้างสุขภาพช่องปาก (คลิก)
  • Plants and herbs for good oral health (คลิก)
  • การป้องกันฟันผุ (คลิก)
  • รวมสาเหตุอาการปวดฟันที่ควรรู้ (คลิก)

ทุกปัญหาเรื่องฟัน เดนทัล แพลนเน็ต แก้ไขได้

รวมทุกปัญหาเรื่องฟัน ที่ เดนทัล แพลนเน็ต

สอบถาม หรือ ขอคำปรึกษาผ่านแชทได้เลย!

เพิ่มเพื่อน

ดูวิธีการรักษาฟัน

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว