รากฟันเทียมทำจากวัสดุอะไร?
รากเทียม เป็นวัสดุที่ทำมาจากโลหะไทเทเนียม (Titanium) โดยฝังลงไปในกระดูกขากรรไกร เพื่อใช้ทดแทนรากฟันที่สูญเสียไป แข็งแรงและใช้งานได้ใกล้เคียงฟันธรรมชาติมากที่สุด
โดยทั่วไปแล้ว Dental Implant จะประกอบด้วย 4 ส่วนหลัก ได้แก่:

รากเทียม (Fixture / Implant Body)
ส่วนที่เป็นสกรู ทำจากไทเทเนียม ทำหน้าที่ฝังลงในกระดูกขากรรไกรเพื่อทดแทนรากฟันธรรมชาติ
ส่วนเชื่อมต่อ (Abutment)
อยู่ระหว่างรากเทียมและครอบฟัน อาจทำจากไทเทเนียมหรือเซรามิก
สกรูยึด (Screw)
ใช้ยึดครอบฟัน (Crown) เข้ากับ Abutment เพื่อให้ครอบฟันติดแน่น
ครอบฟัน (Crown)
ส่วนของตัวฟันที่อยู่ด้านบน ทำจากวัสดุที่เลียนแบบสีและรูปร่างของฟันธรรมชาติ เช่น เซรามิกหรือเซอร์โคเนีย (Zirconia) ซึ่งมีความสวยงามและแข็งแรง


ขั้นตอนการทำรากเทียมที่ควรรู้
ทันตแพทย์จะตรวจช่องปาก โดยใช้ถ่ายภาพรังสี 3 มิติ (CT Scan) ร่วมกับเอกซเรย์ OPG เพื่อประเมินสภาพกระดูก วางแผนตำแหน่งการฝังรากเทียม จำนวนและชนิดของรากฟันเทียมที่เหมาะสมกับคนไข้
เมื่อคนไข้เข้าใจแผนการรักษาแล้ว ในนัดหมายครั้งถัดไป ทันตแพทย์จะทำการผ่าตัดเล็กเพื่อฝังรากเทียมลงในกระดูกขากรรไกร ใช้เวลา 30-45 นาทีต่อราก โดยประมาณ
ภายใน 5-7 วันหลังการผ่าตัด ทันตแพทย์จะนัดหมายผู้ป่วยเพื่อติดตามอาการและประเมินการสมานของแผล รวมถึงให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลตนเองที่ถูกต้องระหว่างรอทำครอบฟัน
หลังจากฝังรากฟันเทียมแล้ว จะต้องรอให้รากเทียมเชื่อมติดกับกระดูกอย่างสมบูรณ์ก่อน ถึงจะสามารถใส่ครอบฟันได้ ซึ่งอาจใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือน หรือมากกว่านั้น ในบางกรณี หากเป็นฟันหน้าอาจมีการใส่ครอบฟันชั่วคราวเพื่อความสวยงาม ทั้งนี้ขึ้นอยู่ดุลพินิจของทันตแพทย์
หลังจากนั้นทันตแพทย์จะนัดหมายเพื่อพิมพ์ฟัน และเลือกวัสดุครอบฟัน เพื่อออกแบบครอบฟันเฉพาะบุคคล ในขั้นตอนนี้จะใช้เวลาประมาณ 7-10 วัน ในการรอชิ้นงาน
นัดหมายใส่ครอบฟัน ครอบฟันจะมีหลายวัสดุให้เลือก มีรูปร่างและสีใกล้เคียงฟันธรรมชาติ
ครอบฟัน Porcelain Fused to Metal Crown (PFM) – มีความแข็งแรง ทนทานต่อการบดเคี้ยว และแรงกระแทก เหมาะกับฟันกราม
ครอบฟันเซรามิก (All Ceramic Crown) – มีความแข็งแรงสูง เหมาะสำหรับฟันหน้าหรือฟันที่ต้องการความสวยงามเหมือนฟันธรรมชาติ
โปรโมชั่นทำฟัน | รากเทียม ครอบฟัน
หลังจากใส่ฟันเรียบร้อยแล้ว ทันตแพทย์จะนัดมาตรวจติดตามผล และแนะนำการดูแลรักษาความสะอาดช่องปากอย่างถูกวิธี ทุกๆ 6 เดือน
การดูแลหลังทำรากฟันเทียม
1. หลังผ่าตัดฝังรากเทียม ให้กัดผ้าก๊อซไว้ 30–60 นาที จนกว่าเลือดจะหยุด
2. ในระหว่างรอใส่ครอบฟัน หลีกเลี่ยงการเคี้ยวอาหารด้านที่ปักรากฟันเทียม เพราะการเคี้ยวแรงๆ อาจทำให้รากฟันเคลื่อนหรือเสียตำแหน่งได้
3. แปรงฟันให้สะอาดอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง
4. ใช้ไหมขัดฟันอย่างน้อย 1–2 ครั้งต่อวัน เพื่อทำความสะอาดบริเวณซอกฟัน
5. ขูดหินปูนและพบทันตแพทย์อย่างน้อยทุกๆ 6 เดือน เพื่อการดูแลอย่างสม่ำเสมอ
หากพบอาการผิดปกติหลังจากทำรากเทียม ให้ติดต่อกับไปที่คลินิกที่ให้บริการทันที!
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร 080 880 1900

ข้อดีของ Dental Implant
- เปรียบเสมือนฟันแท้ ที่ช่วยให้การบดเคี้ยวมีประสิทธิภาพมากขึ้น รับประทานอาหารได้สะดวก
- ใช้งานได้ยาวนาน มากกว่า 10 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาอย่างถูกวิธี
- ช่วยให้การพูดและการออกเสียงชัดเจนยิ่งขึ้น
- ป้องกันการล้มของฟันซี่ข้างเคียง
- เสริมความสวยงาม ดูเป็นธรรมชาติใกล้เคียงฟันจริง
- สร้างความมั่นใจในการยิ้มและการแสดงออก
ในการเลือกคลินิกสำหรับทำรากฟันเทียม สิ่งสำคัญที่สุดคือการพิจารณาประสบการณ์ของทันตแพทย์ รวมถึงมาตรฐานของคลินิก เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้รับการรักษาที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด
เดนทัล แพลนเน็ต เป็นคลินิกทันตกรรมรากเทียม ที่ดูแลโดยทันตแพทย์เฉพาะทางรากเทียม ตั้งแต่การวางแผนการรักษา การประเมินสุขภาพช่องปาก ไปจนถึงขั้นตอนการฝังรากเทียมอย่างมืออาชีพ พร้อมเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อความแม่นยำและปลอดภัยสูงสุด
นอกจากนี้ คลินิกยังมี หลายสาขาในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ทำให้สะดวกต่อการเดินทางและการติดตามการรักษา ดูสาขาใกล้บ้านคุณ (คลิก)
สาขารังสิต

A title
Image Box text
สาขารามอินทรา

A title
Image Box text
สาขาเซ็นทรัล เวสต์เกต

A title
Image Box text
สาขาพหลโยธิน

A title
Image Box text
สาขาอ่อนนุช

A title
Image Box text
สรุป
การสูญเสียฟันเพียงซี่เดียวสามารถนำไปสู่ปัญหามากมาย เช่น การบดเคี้ยว ฟันข้างเคียงล้มเอียง กระดูกขากรรไกรละลาย ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยรวมและรูปหน้าได้ในระยะยาว รากฟันเทียมจึงเป็นทางเลือกที่ช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้อย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ
*พบทันตแพทย์ เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากและฟัน อย่างน้อยทุกๆ 6 เดือน
ทุกปัญหาเรื่องฟัน เดนทัล แพลนเน็ต แก้ไขได้

